ของเล่นเสริมพัฒนาการ แนะนำสำหรับลูกน้อยอายุ 0-6 เดือน (Best Toys for Babies 0-6 Months)

คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า การเล่นและของเล่นบางชนิด สามารถส่งเสริมพัฒนาการของลูก ทั้งทางร่างกาย ภาษา อารมณ์ และสังคม ของลูกน้อย ดังนั้นในช่วง 0-6 เดือนแรก เรามาดูกันซิว่าของเล่น และกิจกรรมไหนที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยของเราบ้าง 

การเล่น เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านพัฒนาการของลูกน้อยได้หลายด้าน ซึ่งลูกน้อยของเราจะเรียนรู้สิ่งรอบตัว เรียนรู้ตัวเอง เรียนรู้ตัวเอง ผ่านการเล่น  ดังนั้นการเล่นกับลูกบ่อยๆ จะช่วยให้เค้ามีพัฒนาการสมวัย ซึ่งการเล่นกับลูกอาจไม่จำเป็นต้องใช้ของเล่นแพงๆ แค่การนอนอ่านหนังสือบนพื้น เล่นกับลูกบนพื้น ด้วยของในบ้านเท่าที่มี ก็สามารถส่งเสริมพัฒนาการของลูกเราได้ง่ายๆ

ในช่วง 6 เดือนแรก จะเป็นการพัฒนาการแบบก้าวกระโดด ซึ่งการเล่นจะช่วยให้พัฒนาการของลูกน้อยเป็นไปอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว 

เมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก สิ่งแรกที่พ่อแม่ปรารถนาคือการมอบโอกาสที่ดีที่สุดให้ลูกได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ หนึ่งในนั้นคือการเลือกของเล่นที่เหมาะสม ซึ่งไม่ใช่แค่ความสนุก แต่ต้องกระตุ้นพัฒนาการได้รอบด้าน วันนี้เรามีไอเดียของเล่นดีๆ มานำเสนอให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่โดยเฉพาะ

ของเล่นไหนที่เหมาะสมกับลูกในช่วงนี้

ของเล่นในช่วงแรกเกิดของลูก จะเป็นของเล่นง่ายๆไม่ซับซ้อน กระตุ้นการมอง การได้ยิน การสัมผัส ตัวอย่างของเล่นที่เหมาะสมในวัยนี้คือ 

ตุ๊กตาจะออกแบบมาเพื่อให้เด็ก กระตุ้นการได้ยินจากเสียงที่มากับตุ๊กตา กระตุ้นการมองเห็น เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีสีแบบ High contrast และมักจะมีกระจกมาให้ด้วย กระตุ้นการสัมผัสจากผิวสัมผัวของตุ๊กตา ทั้งยังสามารถเป็นที่กัดให้ลูกน้อยได้ โดยสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก

กระตุ้นการมองเห็น: โมบายช่วยดึงดูดสายตาลูกให้มองตาม จ้องมองสิ่งใหม่ๆ นานขึ้น ซึ่งเป็นการฝึกกล้ามเนื้อตาและทักษะการจดจ่อ

ส่งเสริมความคิด: ลูกได้สังเกต คิดตาม ความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ เมื่อตุ๊กตาแขวนหมุน แกว่งไกว นับเป็นการวางพื้นฐานการคิดวิเคราะห์เชื่อมโยงตั้งแต่ยังเล็ก

กระตุ้นประสาทสัมผัส: นอกจากสายตาแล้ว โมบายยังช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสอื่นๆ อย่างการได้ยินเสียงเพลงเบาๆ หรือการสัมผัสเนื้อผ้านุ่มๆ ของตุ๊กตา เสริมพัฒนาการรอบด้าน

สร้างจินตนาการ: โมบายที่มีธีมชัดเจน เช่น โมบายสัตว์ต่างๆ โมบายสวนสัตว์ จะช่วยเปิดโลกจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ให้ทารกน้อยได้เป็นอย่างดี

ปลอบประโลมอารมณ์: สีสันสดใส เสียงเพลงเบาๆ และการแกว่งไกวเหมือนอยู่ในอ้อมกอดแม่ ช่วยปลอบโยน ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย อารมณ์แจ่มใสยิ่งขึ้น

การทำ Tummy time หรือเป็นการฝึกให้ลูกนอนคว่ำ เป็นกิจกรรมที่ แนะนำให้ฝึกลูกทำตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล เพราะสามารถกระตุ้นพัฒนาการต่างๆ ได้ แผ่นกิจกรรมทำ Tummy time จะช่วยให้การทำ Tummy time ของลูกน้อยสนุกขึ้น ทำได้นานขึ้น

เสริมกล้ามเนื้อลำตัว: การนอนคว่ำบนแผ่น Tummy Time ช่วยให้ลูกได้ฝึกยกศีรษะ ลำตัว ไหล่ แขน ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้พัฒนาเร็วขึ้น

กระตุ้นประสาทสัมผัส: แผ่นกิจกรรมมักมาพร้อมของเล่นแปลกใหม่ เช่น กระจกส่องหน้า ตุ๊กตาผ้า บอลยาง ที่มีสีสัน เนื้อสัมผัสต่างๆ กัน ช่วยกระตุ้นการมองเห็น การได้ยิน และการสัมผัสได้เป็นอย่างดี

ส่งเสริมสมาธิและการเรียนรู้: ขณะที่ลูกกำลังสำรวจแผ่นกิจกรรมอย่างตั้งใจ สมองก็จะได้รับการพัฒนาไปด้วย ทั้งทักษะการจดจ่อ ความจำ และการคิดเชื่อมโยง วางรากฐานสมองให้แข็งแรงตั้งแต่เยาว์วัย

พัฒนากล้ามเนื้อมือและสายตา: ของเล่นแต่ละชิ้นบนแผ่น Tummy Time ได้รับการออกแบบให้ลูกต้องฝึกหยิบจับ ประสานมือและสายตา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการในขั้นต่อไป

เสริมสายสัมพันธ์พ่อแม่ลูก: การเล่นร่วมกันระหว่างพ่อแม่กับลูกผ่านแผ่นกิจกรรม นอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังช่วยกระชับความผูกพัน ลูกได้รับความรัก ความอบอุ่น เป็นรากฐานพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมที่มั่นคง

ของเล่นแบบมีเสียงเป็น 1 ในของเล่นที่ควรมี เนื่องจาก ของเล่นแบบมีเสียง สามารถกระตุ้นการได้ยินได้เป็นอย่างดี สามารถใช้เล่นให้ลูกหันตามเสียงได้ เป็น 1 ในการทดสอบการได้ยินของลูกน้อย นอกจากนี้ Rattle ส่วนใหญ่จะมีที่จับที่พอดีมือ สามารถฝึกการใช้งานทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และสามารถใช้เล่นได้ในหลายๆ กิจกรรม จึงเป็นหนึ่งในของเล่นที่ควรมีติดบ้านค่ะ

แผ่นกิจกรรมสำหรับลูกน้อย สามารถกระตุ้นพัฒนาการได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถกระตุ้นการมองเห็น และกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ สามารถเริ่มเล่นได้ตั้งแต่ช่วง 1-3  เดือนแรก Play Gym มักจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ลูก เช่น มีตุ๊กตาแขวนให้มองกระตุ้นการมองเห็นและให้เด็กได้ความจับเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อแขน มีกระจก มีเสียงเพลง มีแผ่นให้เตะ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาได้  นับเป็น 1 ในของเล่นที่คุ้มค่าในการลงทุน เพื่อกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ค่ะ

หนังสือกับเด็กๆ มักเป็นของคู่กันเสมอ สำหรับลูกน้อย 0-6 เดือน หนังสือผ้ามักเป็นสิ่งแรกๆ ที่ควรมีติดบ้าน ลูกน้อยสามารถเรียนรู้สีสัน เรื่องราวต่างๆ ผ่านหนังสือผ้า สัมผัสของผ้าสามารถกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกได้เป็นอย่างดี 

ปลุกทุกประสาทสัมผัส: หนังสือผ้าไม่ได้ออกแบบมาเพื่อแค่อ่านเฉยๆ แต่ลูกสามารถสัมผัส บีบ ขยำ เขย่า ฟังเสียงกรุ๊งกริ๊ง พลิกไปมาได้อย่างสนุกสนาน กระตุ้นประสาทสัมผัสครบทุกด้าน ทั้งตา หู มือ และความคิด

วางรากฐานรักการอ่าน: การอ่านให้ลูกฟังบ่อยๆ ตั้งแต่เล็ก จะช่วยปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ฝังลึก เป็นการวางพื้นฐานที่ดีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต

เพิ่มพูนคลังคำศัพท์: หนังสือผ้ามักมีการออกแบบที่เน้นฝึกคำศัพท์สำคัญ เช่น สี ตัวเลข รูปทรง สัตว์ต่างๆ พ่อแม่สามารถชี้ชวนคุยกับลูก ทำให้ลูกเรียนรู้คำศัพท์ได้เร็วขึ้น

ขยายจินตนาการ: ด้วยลายเส้นที่สนุกสนาน สีสันจัดจ้าน บางเล่มมีตัวละคร เรื่องราวให้จินตนาการตาม ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้ลูกน้อยได้อย่างดี

พัฒนาสมาธิ: เด็กๆ มักให้ความสนใจกับหนังสือผ้าได้นานกว่าของเล่นอื่นๆ ฝึกสมาธิจดจ่อ ความมีระเบียบวินัยในการเล่นได้ดี

ปลอดภัยหายห่วง: หนังสือผ้าผลิตจากผ้านุ่ม ไม่มีส่วนแหลมคม สีสันปลอดสารพิษ จึงไม่ต้องกังวลว่าลูกจะดึง ฉีก กัด หรือเขย่าแรงๆ เหมาะกับลูกวัยจับต้องทุกอย่างโดยไร้กังวลใดๆ

ยางกัด จะเป็นของเล่นที่สามารถสร้างความเพลิดเพลินให้ลูกน้อยได้ ในช่วง 3-6 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มมีพฤติกรรมชอบเอาของเข้าปาก เริ่มมีอาการคันเหงือก ยางกัด เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สามารถ ลดอาการคันเหงือก และสร้างความเพลิดเพลินให้ลูกน้อยได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกน้อยได้ฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือ เวลาจับยางกัด

เด็กๆ หลายๆ คนจะมีตุ๊กตาตัวโปรด ผ้าอันโปรด หรือเรามักจะเรียกว่า ผ้าเน่า โดยส่วนใหญ่ของเล่นพวกนี้ จะให้คุณค่าทางจิตใจกับลูกเป็นหลัก เนื่องจากจะเป็นตัวแทนของแม่ หรือ ของพ่อ ได้ ตุ๊กตาบางตัวมีผิวสัมผัส มีเสียง หรือ มีที่ให้ลูกกัด ก็จะสามารถให้งานได้อย่างหลากหลายมากขึ้นค่ะ

เพียงแค่เลือกของเล่นให้เหมาะสม ก็เท่ากับมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้ลูกแล้ว ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่พร้อมจะเลือกของเล่นคู่ใจให้ลูกรักหรือยัง? อย่ามัวรอช้า เพราะทุกวินาทีคือโอกาสทองในการส่งเสริมพัฒนาการลูก เริ่มต้นวางรากฐานชีวิตที่ดีให้ลูกด้วยของเล่นคุณภาพ เพื่ออนาคตที่สดใสรออยู่เบื้องหน้านะคะ